ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจนวดที่บ้าน
1. จัดเตรียมตบแต่งห้องสำหรับที่จะใช้เป็นห้องทำงาน หรือห้องนวด
2. การเปิดร้านนวด ถือเป็นการทำธุรกิจส่วนตัวที่เรียกกันว่า
selbstständig เพราะเป็นเจ้าของเอง ซึ่งตามกฎหมายเยอรมัน
จะต้องขอจดทะเบียน จึงต้องติดต่อหน่วยงานราชการที่ ชื่อว่า Gewerbeamt
เข้าไปที่แผนก Gewerbeanmeldung เพื่อขอจดทะเบียนธุรกิจส่วนตัว
3. หากว่ามีการดัดแปลงห้อง
หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านเพื่อนำมาใช้เป็นห้องนวด โดยมีการโยกย้าย
หลายสิ่งหลายอย่าง นั่นคือมีการดัดแปลงแปลนบ้าน
จำเป็นต้องไปทำเรื่องขออนุมัติที่แผนก Nutzungsänderung เสียก่อน
ในการทำเรื่องขออนุมัติ ทางเจ้าหน้าที่จะสอบถามหลาย ๆ อย่าง เช่น
ธุรกิจที่จะทำก่อให้เกิดมลภาวะหรือไม่
ที่จอดรถและเรื่องห้องน้ำสำหรับลูกค้า ฯลฯ
จากนั้นจะให้เอกสารแบบฟอร์มมากรอก พร้อมกับขอเอกสารประกอบอื่น ๆ
ซึ่งจะมีระบุอยู่ในแบบฟอร์มนั้น
เมื่อกรอกเสร็จก็นำแบบฟอร์มพร้อมเอกสารต่าง ๆ ที่ทางแผนกนี้ ต้องการ
พร้อมแนบแปลนบ้านที่ดัดแปลงแก้ไขด้วย ยื่นขออนุมัติต่อ Nutzungsänderung
อีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งให้ทราบว่าได้รับการ
อนุมัติหรือไม่
4. เมื่อทาง Nutzungsänderung อนุมัติ ก็กลับเข้าไปติดต่อที่แผนก
Gewerbeanmeldung เพื่อขอจดทะเบียนการทำธุรกิจ
เจ้าหน้าที่จะถามว่าเป็นธุรกิจประเภทไหน ทำอะไรบ้าง การทำนวดแผนไทย
ก็บอกไปว่า Thai Massage อาจเสริมเรื่องเกี่ยวกับความงามและสุขภาพ
หากว่าในอนาคตจะมีการทำเล็บให้ลูกค้าเพิ่มเติม สำหรับการนวด
Fuss-reflexzonenmassage เจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้คำนี้ ให้ใช้แค่ “Fuss
massage”เท่านั้น
5. การจดทะเบียนจะเสียค่าธรรมเนียม 20 ยูโร จากนั้นทางราชการก็จะออกหนังสือแสดงการจดทะเบียนให้ เรียกว่า Gewerbeschein
6. หลังจากทำการจดทะเบียนประมาณ 1สัปดาห์
จะมีจดหมายมาจากทางราชการเรื่องการดัดแปลงแปลนบ้าน
ต้องเสียค่าอนุมัติไปอีก 50 ยูโร รวมแล้วกว่าจะจดทะเบียนธุรกิจนี้เสร็จ
เสียเงินไป 70 ยูโร
7. หากเกรงว่าอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในการทำงาน อุบัติเหตุต่าง ๆ เช่น
ลูกค้าเกิดบาดเจ็บ ก็อาจจะทำประกันป้องกันไว้ก่อนได้
ข้อมูลก็สามารถสอบถามได้จากสำนักงานประกันต่าง ๆ ดิฉันไม่ได้ทำประกันใด ๆ
และยังไม่เคยมีปัญหาใด ๆ
เมื่อจดทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็สามารถเริ่มรับลูกค้าได้เลย
หมายเหตุ หากว่าไม่มีการดัดแปลงใด ๆ เกี่ยวกับตัวบ้าน ก็ไม่ต้องดำเนินการข้อ 3 และ 6
การเสียภาษี
- โดยทั่วไปผู้ที่ขอจดทะเบียนทำธุรกิจส่วนตัว
มักจะได้รับการติดต่อจากสรรพากร (Finanzamt)
เพื่อขอตรวจสอบว่าจะต้องจ่ายภาษีเงินได้ล่วงหน้าหรือไม่
แต่หากทางสรรพากรไม่ติดต่อมา
เราอาจจะไปแจ้งให้สรรพากรทราบว่ากำลังจะเปิดกิจการส่วนตัว
ทางสรรพากรก็จะมีแบบฟอร์มให้กรอก
สิ่งสำคัญที่ทางสรรพากรต้องการคือขอให้คำนวณ
หรือประมาณรายได้ที่จะได้ว่าประมาณเดือนละเท่าไร
- หากว่าเปิดทำธุรกิจในบ้าน ทำคนเดียว ไม่มีลูกจ้าง
และไม่ได้ทำเต็มเวลา อาจจะเป็น 10 ชม.ต่ออาทิตย์
เนื่องจากต้องดูแลลูกและครอบครัวไปพร้อม ๆ กัน
ก็อาจที่จะแจ้งว่าเป็นธุรกิจขนาดเล็ก นั่นคือรายได้ต่อปีจะต้องน้อยกว่า
17,000 ยูโร ในการเรียกเก็บค่าบริการก็อาจเลือกได้ว่าจะเก็บ
“ภาษีมูลค่าเพิ่ม 19%” หรือไม่
เพราะหากเก็บก็จำเป็นต้องนำภาษีนี้ส่งทางสรรพากร
- รายจ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการ เช่น
วัสดุอุปกรณ์ น้ำมันนวด ผ้าเช็ดตัว สบู่ ฯลฯ ในแต่ละปี
สามารถนำมาหักออกจากรายได้ หากเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าสูงราคาหลายร้อยยูโร
หรือเป็นพันยูโร อาจไม่สามารถเอามาหักภาษีทีเดียวภายในปีเดียวกันได้
ต้องทยอยยื่นขอหักสองหรือสามปี
- การยื่นแสดงรายการการเสียภาษี
โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เปิดกิจการส่วนตัวนั้น อาจจะยุ่งยาก
ดังนั้นอาจจะจ้างวานให้บริษัทที่รับทำภาษี ที่เรียกกันว่า Steuerberater
เป็นคนจัดการให้ ซึ่งสนนราคาก็แล้วแต่ว่าเขาต้องดำเนินการมากน้อยแค่ไหน
- เรื่องการประกันสุขภาพนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณมีรายได้เกิน
400 ยูโร ต่อเดือนหรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วหากมีรายได้เกิน 400 ยูโร
ต่อเดือนก็มักจะต้องทำประกันสุขภาพเอง ไม่สามารถใช้ร่วมกับสามีได้
ซึ่งเรื่องนี้ควรที่จะสอบถามหารือกับสำนักประกันสุขภาพที่คุณประกันอยู่
หากไม่ติดต่อเมื่อสำนักประกันทราบเรื่องอาจจะต้องเสียเบี้ยประกันย้อนหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น